วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2550

อวบ สาณะเสน : จิตรกรมือทอง

นิทรรศการผลงานศิลปกรรม – อวบ สาณะเสน 72 ปี / หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, 26 พฤศจิกายน 2550 – 31 มกราคม 2551

Uab Sanasen

การเคลื่อนไหวของศิลปะร่วมสมัยในบ้านเรามีอยู่หลายแนวทาง ทางหนึ่งเรามีจิตรกรรมไทยประเพณีที่สนองต่อค่านิยมในปัจจุบันได้อย่างสมประโยชน์ เช่นงานของ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ทางหนึ่งเรามีศิลปะประท้วงความไม่เป็นธรรมในสังคมที่แสดงปฏิกิริยาทั้งในตัวงานและการเคลื่อนไหวในพื้นที่สาธารณะ เช่นงานของ วสันต์ สิทธิเขตต์ และอีกทางหนึ่งเรามีศิลปินระดับโลกอย่าง ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวณิช ซึ่งปฏิวัติวงการศิลปะสากลด้วยการทำผัดไทยในห้องแสดงงานที่นิวยอร์ก เพื่อเสนอศิลปะในฐานะกิจกรรมที่ผู้ชมมีส่วนร่วมกับกระบวนการนั้นด้วย

แต่เราก็ยังมีศิลปะในรูปแบบที่คุ้นเคยสำหรับคนทั่วไปอย่างงานจิตรกรรมแสดงความงามจากฝีมืออันวิจิตร เช่นงานของ จักรพันธุ์ โปษยกฤต และอีกคนที่จัดเป็นยอดฝีมือชั้นครู (Master) ในทุกกระบวนท่าทางจิตรกรรมคือ อวบ สาณะเสน

งานนิทรรศการผลงานศิลปกรรม อวบ สาณะเสน 72 ปี รวบรวมผลงานจิตกรรมสีน้ำมันชิ้นเอกตลอดชีวิตการทำงานของ อวบ สาณะเสน ร่วม 200 ภาพ มาจัดแสดงเต็มตลอดชั้น 1 และชั้น 2 ของหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ธนาคารกรุงเทพสาขาผ่านฟ้า นับเป็นโอกาสดีที่จะได้ชื่นชม “ของจริง” ของผลงานอันลือลั่นเหล่านี้พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพหุ่นนิ่งชุดเครื่องถ้วยเบญจรงค์ ภาพชุดไวโอลิน ภาพชุดจิตรกรรมไทยประยุกต์ ภาพผู้หญิงเปลือย ภาพทิวทัศน์ ภาพหุ่นนิ่งแจกันดอกไม้ ตลอดจนภาพเหมือนศิลปินและบุคคลต่างๆ ซึ่งนอกจากจะได้ศึกษาฝีแปรง (brush-work) ที่แสดงความชำนาญและจิตวิญญาณของศิลปินในแต่ละภาพแล้ว ยังเห็นถึงภูมิปัญญาของการสร้างสรรค์ในภาพรวมด้วย

อวบ สาณะเสน สร้างชื่อในหมู่ผู้นิยมสะสมงานศิลปะมาตลอด 30 ปี ด้วยจิตรกรรมคุณภาพสูงที่มีพัฒนาการอยู่เสมอ เขาเคยจัดงานแสดงเพียง 3 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2526, 2530 และ 2531 แต่ประชาชนทั่วไปก็มักจะเคยเห็นผลงานของเขาผ่านสื่อหรือคุ้นตากับภาพจำลองและงานลอกเลียนแบบจากการสร้างสรรค์ของเขา เพราะอวบเป็นศิลปินชั้นครูที่มีผู้ดำเนินรอยตามอย่างกว้างขวาง

จากพื้นฐานของครอบครัวที่มีรสนิยมทางศิลปะ อวบชอบวาดภาพและเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก เขาเรียนจบคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร รุ่นที่ 13 เคยเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนศิลปศึกษา (วิทยาลัยช่างศิลป) คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และแผนกอิสระวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยทำงานศิลปกรรมในหน่วยงาน เช่น ไทยโทรทัศน์ช่อง 4 สถาบันเยอรมัน องค์การซีโต และบริษัทไทยวัฒนาพานิช เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและอำนวยการสถาบันทางวัฒนธรรม เช่น ศูนย์ศิลปนวลนาง หอขวัญศิลปสถาน มูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ และเป็นที่ปรึกษาหรือกรรมการอีกหลายแห่ง

คนที่ชอบอ่านหนังสือจะคุ้นชื่อของเขาในฐานะผู้ร่วมบุกเบิกวารสารเมืองโบราณ และจะเห็นภาพของเขาปรากฏร่วมกับ ประยูร อุลุชาฎะ (น. ณ ปากน้ำ) และ อังคาร กัลยาณพงศ์ ในการสำรวจค้นคว้าและเก็บบันทึกหลักฐานทางโบราณคดีตามสถานที่ต่างๆ หรือไม่ก็ทำกิจกรรมร่วมกับ ส.ศิวรักษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนอัสสัมชัญรุ่นเดียวกัน

อวบ สาณะเสน เริ่มอาชีพศิลปินเต็มตัวตอนอายุ 42 ปี ด้วยความรู้และความเข้าใจในศิลปะและวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง งานจิตรกรรมของเขาจึงแสดงภูมิปัญญาอันล้ำลึก แม้จะใช้รูปแบบธรรมดาอย่างงานจิตรกรรมเชิงพาณิชย์ทั่วไปก็ตาม อย่างประดาถ้วยโถโอชามหรือลายผ้าในภาพหุ่นนิ่งของเขาล้วนมีคุณค่าของความเป็นมาและมีความหมาย ภาพทิวทัศน์ก็แสดงถึงความเข้าใจในหลักวิชาทัศนียภาพของตะวันตก และเข้าถึงบรรยากาศของความเป็นไทยด้วย หรือภาพจิตรกรรมไทยประยุกต์ก็จับหัวใจของสุนทรียภาพแบบไทยที่แฝงอารมณ์ขันทีเล่นทีจริงได้อย่างถ่องแท้ นอกจากนี้เขายังเป็นศิลปินครบเครื่องที่ทำงานได้ดีในทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ชื่อของเขาจะติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดซื้อขายงานศิลปะ

ประจวบกับทศวรรษที่ 2520 และ 2530 นั้น เศรษฐกิจในบ้านเราเติบโตอย่างรวดเร็ว และคนไทยก็หันมาสนใจงานศิลปะกันมากขึ้น จนกลายเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อ ทำให้รูปแบบของงานในตลาดเปลี่ยนไปด้วย จากเดิมลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างประเทศ เพราะฉะนั้นงานศิลปะที่ขายได้จึงเน้นความงามอันแปลกตา (Exotic) สำหรับชาวต่างชาติ เช่น ภาพตลาดน้ำ งานที่แสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม หรือธรรมชาติอันมีลักษณะเฉพาะ เป็นต้น แต่สำหรับตลาดกลุ่มคนไทยจะต้องการความงามที่โอ่อ่าและแสดงรสนิยมอันสูงค่า เช่น ภาพธรรมชาติเหมือนจริงตามเหตุผล หรือแสดงฝีมืออันวิจิตรพิสดารของศิลปิน ภาพที่แสดงวัฒนธรรมล้ำค่าในอดีต ภาพที่แสดงความงามสง่าแบบคลาสสิก หรือแสดงอารมณ์โรแมนติกอย่างศิลปะตะวันตก

งานจิตรกรรมของ อวบ สาณะเสน ยืนพื้นอยู่บนความงามแบบคลาสสิก หรือดำเนินตามสุนทรียภาพของศิลปะชั้นสูงในยุคทองที่นิยมแสดงฝีมืออันช่ำชองและอุดมคติดีงาม แบบอย่างเช่นนี้เป็นผลผลิตของแนวคิดแบบมนุษยนิยม ซึ่งพบในศิลปะตะวันตกตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) เป็นต้นมา เจตนาพื้นฐานคือต้องการแสดงภาพแทนของโลกในอุดมคติที่มีความสมบูรณ์พร้อม อย่างงานของอวบมักจะจัดวางองค์ประกอบแบบกลมกลืนลงตัวตามสูตรเรขาคณิตที่เรียกกันว่า “สัดส่วนทองคำ” (Golden Section) แม้แต่วัตถุที่เขาเลือกเขียน อย่างไวโอลิน หรือแจกันดอกไม้ ยังแสดงความงามตามสัดส่วนทองคำด้วย ซึ่งจะให้ความรู้สึกสง่าและสูงส่งของรสนิยมที่ผ่านการขัดเกลามาดีแล้ว

ผลงานที่นำมาแสดงในนิทรรศการครั้งนี้จะจัดกลุ่มเป็นหมวดหมู่ตามเนื้อหา ตั้งแต่ภาพคนเหมือน ภาพหุ่นนิ่ง ภาพทิวทัศน์ ภาพจินตนาการ และภาพไทยประยุกต์ คนที่ไปชมก็จะได้เปรียบเทียบระหว่างรูปแบบและวิธีการของงานที่สร้างสรรค์ขึ้นต่างวาระกัน เพราะบางภาพเขาจะระบายแบบทึบแสง แสดงบรรยากาศขรึมขลังแนวคลาสสิก หรือแสดงบรรยากาศเร้าอารมณ์แนวโรแมนติก แต่บางภาพเขาก็จะระบายแบบโปร่งแสง แสดงความนุ่มนวลอ่อนหวานด้วยการควบคุมจังหวะเปียกแห้งของสีอย่างแม่นยำ และบางภาพเขาก็จะระบายทิ้งรอยฝีแปรงแบบอิมเพรสชั่นนิสม์

บางภาพเขาเขียนหุ่นนิ่งไวโอลินแสดงความงามของรูปทรงและแสงเงา บางภาพเขาเขียนไวโอลินลอยอยู่บนฟ้าในบรรยากาศเคลิ้มฝันแบบศิลปะเหนือจริง และบางภาพเขาจะตัดแบ่งรูปทรงไวโอลินด้วยระนาบเรขาคณิตแบบศิลปะคิวบิสม์ บางภาพเขาจะเขียนทิวทัศน์ในอารมณ์แบบโรแมนติก และบางภาพเขาจะเขียนทิวทัศน์ในอุดมคติที่แสดงความงาม 2 มิติอย่างจิตรกรรมไทยประเพณี

แต่ทั้งหมดยังคงเป็นการแสดงความงามตามอุดมคติ (Idealistic) หรือเป็นภาพลักษณ์ของความจริงแท้ที่สมบูรณ์แบบกว่าความเป็นจริง เป็นตัวแทนของความดีงามในความรู้สึกนึกคิด และเป็นโลกต้นแบบที่ใฝ่ฝันถึง

ความงามตามอุดมคติของวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันออกนั้นแสดงออกต่างกัน พื้นฐานของศิลปะตะวันตกเกิดจากปรัชญาการมองความจริงจากภายนอกตามที่ตาเห็น ดังนั้นจึงพัฒนาหลักวิชาของการสร้างภาพแบบเหมือนจริงขึ้นมา แต่พื้นฐานของศิลปะตะวันออกเกิดจากปรัชญาการมองความจริงภายในตามที่รู้เห็น เพราะฉะนั้นจึงไม่เน้นความเหมือนจริง แต่จะตัดทอนหรือขยายให้เป็นภาพเชิงสัญลักษณ์แทน

พัฒนาการของศิลปะสมัยใหม่ในสังคมตะวันตกเริ่มต้นจากการมองย้อนกลับเข้ามายังความจริงภายในตัวตนของแต่ละคน แต่ศิลปะสมัยใหม่ในสังคมตะวันออกจะเริ่มต้นที่การเรียนรู้ศิลปะตามหลักวิชา (Academic Art) ของตะวันตกก่อน เช่นเดียวกับในบ้านเรา เพราะฉะนั้นงานศิลปะแบบเหมือนจริงไม่ว่าจะเคร่งขรึมคลาสสิกหรือแสดงความรู้สึกโรแมนติก ล้วนเป็นความงามอย่างใหม่ที่แตกต่างจากศิลปะตามประเพณีซึ่งจำกัดอยู่กับบทบาทในสังคมเดิม และมีความสอดคล้องกับภาพฝันในอุดมคติของคนที่ได้รับการศึกษาแบบสมัยใหม่จากตะวันตกมากกว่า

สารัตถะในงานของ อวบ สาณะเสน คือความพยายามที่จะจำลองกาละอันเป็นอมตะและเทศะอันเป็นสากล ด้วยการสร้างสรรค์ภายใต้ขนบของรูปแบบทางศิลปะที่ยอมรับคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แม้จะอาศัยภาพลักษณ์ดั้งเดิม แต่บทบาทก็สนองต่อชีวิตสมัยใหม่นั่นเอง เพราะโลกที่มีความสมดุลกลมกลืนเป็นระบบระเบียบ และสร้างขึ้นจากฝีมือช่างอันพิถีพิถันเป็นเลิศนั้น มิได้ทำขึ้นเพื่อถวายบูชาแด่สิ่งสูงค่าดังแต่ก่อน แต่เพื่อสร้างความรู้สึกมั่นคงในจิตใจให้แก่ผู้พบเห็นหรือครอบครอง

ทรรศนะต่อความงามย่อมเกี่ยวพันกับรูปแบบของการดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องพ้องกัน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น